บันทึกการเรียน
ครั้งที่1
วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2562
วันนี้เป็นวันแรกของการเรียน รายวิชาการให้การศึกษาผู้ปกครองเด็กปฐมวัย และเนื่องจากดิฉันลาป่วยจึงได้สอบถามข้อมูลและเนื้อหาที่อาจารย์สอนจากเพื่อนๆ อาจารย์ชี้แจงรายละเอียดของรายวิชาในส่วนของเกณฑ์การให้คะแนน เนื้อหาที่ต้องเรียน และงานที่ต้องทำทั้งงานเดี่ยวและงานกลุ่ม
ต่อมาเป็นการทำ Pre-test ใน Application Quizizz และอาจารย์ได้มอบหมายงานให้แต่ละกลุ่มศึกษาหาวิจัยที่เกี่ยวกับการให้การศึกษาผู้ปกครองเด็กปฐมวัยเพื่อมาศึกษาหาความรู้
ประเมินตนเอง ใส่ใจในการเรียนถึงแม้จะลาป่วย
ประเมินเพื่อน เพื่อนให้ข้อมูลอย่างละเอียด
บันทึกการเรียน
คำถามท้ายบท
บันทึกการเรียน
ครั้งที่2
วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม 2562
บทที่1 เรื่องการให้การศึกษาผู้ปกครองเด็กปฐมวัย
-การให้การศึกษาผู้ปกครองเด็กปฐมวัย-
มนุษย์ควรได้รับการดูแล ถ่ายทอดความคิด วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี และค่านิยมที่ดีงามจากผู้ที่มีความสำคัญอยู่ใกล้ชิดกับเด็กมากที่สุด เพื่อให้ดำรงชีวิตมีความสุข
-ความหมายของผู้ปกครอง-
ผู้ปกครอง หมายถึง ผู้ที่เป็นบิดา-มารดา ญาติพี่น้องหรือบุคคลอื่นที่ให้การอบรมเลี้ยงดูเด็ก ให้การศึกษา รวมทั้งความรักความเอาใจใส่แก่เด็ก
-ความสำคัญของผู้ปกครอง-
พ่อแม่ ผู้ปกครองมีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็ก พ่อแม่มีความใกล้ชิดกับเด็กเป็นผู้ที่มีความหมายต่อชีวิิตเด็กทั้งการเจริญเติบโตทางร่างกายที่สมบูรณ์และจิตใจที่ดี มอบความรักที่บริสุทธิ์ใจกับลูก รวมทั้งสังคมและสติปัญญา
-บทบาทและหน้าที่ผู้ปกครอง-
เป็นผู้สนับสนุนและวางรากฐานที่สำคัญกับเด็กให้เจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ ดังนี้
1.ให้ความรักและความสัมพันธ์กันในครอบครัว
2.ให้ความเอาใจใส่และเอื้ออาทรต่อลูก
3.เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก
4.ให้ประสบการณ์การเรียนรู้ในสังคมกับการปฏิบัติตนที่ดี
5.ส่งเสราิมพัฒนาการและการเรียนรู้ที่เหมาะสมตามวัย
6.ใช้หลักธรรมไตรสิกขา
7.ส่งเสริมพัฒนาการความคิดสร้างสรรค์ตามความสนใจของเด็กอย่างเหมาะสม
8.ศึกษาการเจริยเติบโตของเด็ก
9.ดูแลเอาใจใส่สุขภาพเด็กอย่างเต็มที่
10.สนับสนุนเตรียมความพร้อมลูกก่อนเข้าสังคมกับกลุ่มเพื่อน
คำถามท้ายบท
1.ในสังคมปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นักศึกษาคิดว่าบทบาทและหน้าที่ของผู้ปกครองที่มีต่อเด็กปฐมวัยมีอย่างไรบ้าง จงอธิบาย
ตอบ บทบาทและหน้าที่ที่สำคัญคือการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยตามจารีตประเพณีอย่างดีที่สุด เพื่อให้เด็กปฐมวัยที่เติบโตมานั้นเป็นคนดีของสังคม
2.จงอธิบายวิธีแนวทางที่ผู้ปกครองสามารถใช้ในการส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคมและสติปัญญาให้แก่เด็กปฐมวัย
ตอบ พ่อแม่ผู้ปกครองใช้สื่อหรือทำกิจกรรมร่วมกันกับเด็กเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทั้ง4ด้านให้เหมาะสม หาเวลาเล่นกับเด็กตอบคำถามเด็กอย่างตั้งใจเมื่อเด็กเกิดข้อสงสัย
3.การฝึกให้เด็กเป็นคนดี คนขยัน คนฉลาด ผู้ปกครองควรปฏิบัติอย่างไร
ตอบ ฝึกให้เด็กได้ช่วยเหลืองานบ้าน ถึงแม้ว่าเด็กจะทำได้ดีหรืไม่ดีก็ตามแต่อย่างน้อยเด็กก็ได้ลงมือทำ
4.ปัญหาที่เป็นอุปสรรคของผู้ปกครองที่มีผลกระทบต่อเด็กปฐมวัยคือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องใด จงอธิบาย
ตอบ อุปสรรคส่วนใหญ่เกิดมาจากการไม่มีเวลาอบรมเลี้ยงดูเด็กเพราะพ่อแม่ผู้ปกครองบางท่านอาจจะต้องทำงานเพื่อหาเงินส่งผลกระทบต่อเด็กปฐมวัยเป็นอย่างมากหากผู้ปกครองไม่มีเวลาอบรมเลี้ยงดู
ประเมินตนเอง มาเรียนตรงเวลา ตั้งใจฟังอาจารย์บรรยาย
ประเมินเพื่อน เพื่อนเข้าเรียนตรงเวลา มีเพื่อนบางกลุ่มไม่ตั้งใจฟังบ้าง
ประเมินอาจารย์ อาจารย์อธิบายรายละเอียดครบและเข้าใจเนื้อหาทุกหัวข้อ
บันทึกการเรียน
ครั้งที่3
วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม 2562
บทที่2 เรื่องหลักเบื้องต้นในการให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองเด็กปฐมวัย
การให้ผู้ปกครองได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาจะช่วยทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้เรียนรู้และเข้าใจถึงจุดมุ่งหมายที่สำคัญของการพัฒนาเด็ก ทำให้ดำเนินงานทางการศึกษาระหว่างบ้านกับโรงเรียนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และทำให้ผู้ปกครองมีความรู้และเข้าใจกิจกรรมการเรียนการสอนของเด็กอย่างถูกต้อง
-ความหมายของการให้การศึกษาแก่ผู้ปกครอง-
การให้ความรู้เกี่ยวกับการอบรมเลี้ยงดูเด็ก เพราะเด็กอยู่ในความรับผิดชอบของสถาบันครอบครัว การให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองจึงเป็นการช่วยเหลือพ่อแม่ ผู้ปกครอง ตลอดจนผู้ที่เตรียมตัวจะเป็นพ่อแม่ให้ได้เรียนรู้ถึงวิธีการในการเลี้ยงดูและให้การศึกษาแก่เด็ก เพื่อให้เด็กเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพและได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่าเพื่อพัฒนาตนต่อไปในอนาคต
-ความสำคัญของการให้การศึกษาแก่ผู้ปกครอง-
1.เป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาของเด็ก
2.เป็นการให้ผู้ปกครองได้เข้าใจบทบาทและหน้าที่ของตนเองที่มีต่อการศึกษาของเด็ก
3.ทำให้ลดความขัดแย้งในการดำเนินงานทางการศึกษา ช่วยให้การศึกษาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
4.เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้มีส่วนสนับสนุนและพัฒนากาศึกษาของเด็ก
5.ช่วยทำให้สถาบันครอบครัวมีความมั่นคง แข็งแรง
-วัตถุประสงค์ในการให้การศึกษาแก่ผู้ปกครอง-
1.เพื่อให้เข้าใจถึงวิธีการในการอบรมเลี้ยงดูเด็กและการให้การศึกษาแก่เด็ก
2.เพื่อให้ความรุ้และวิธีการในการส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ให้แก่เด็ก
3.เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกาาของเด็กที่โรงเรียนเพื่อให้ที่บ้านเข้าใจตรงกัน
4.เพื่อส่งเสริมให้ผู้ปกครองได้ตระหนักถึงบทบาทของตนเองในการมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ให้แก่บุตรหลาน
-รูปแบบการให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองเด็กปฐมวัย-
1.การมีส่วนร่วมที่บ้านในการเตรยมความพร้อมให้กับเด็กๆทุกด้าน
2.การมีส่วนร่วมในสถานศึกษา เช่น การเข้าร่วมประชุมกิจกรรมต่างๆ การมีส่วนร่วมในการทำงานเสนอแนวคิดและร่วมตัดสินใจทางการศึกษา
-แนวทางการให้ความรู้ผู้ปกครองในการร่วมกิจกรรมให้ความรู้แกผู้ปกครอง-
1.เป็นผู้อบรมเลี้ยงดูและส่งเสริมพัฒนาการให้การศึกษาแก่เด็ก
2.ให้ความร่วมมือกับสถานศึกษาในลักษณะต่างๆที่เหมาะสมกับบริบทของตนเอง
3.ให้ความร่วมมือทำกิจกรรมต่างๆในสถานศึกษากับเด็ก
4.ให้การช่วยเหลือและสนับสนุนโรงเรียนเพื่อพัฒนาเด็กอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
-แนวปฏิบัติของสถานศึกษา-
1.รับฟังความคิดเห็นและความรู้สึกที่ผู้ปกครองมีกับลูก
2.ขณะที่พูดคุยกับผู้ปกครองเด็ก ไม่ใช้คำพูถึงเด็กในทางที่ไม่ดีเท่านั้นแต่ควรพูดถึงในสิ่งที่เด็กได้พัฒนาขึ้นด้วย
3.ควรหลีกเลี่ยงคำอธิบายหรือใช้คำศัพท์ทางวิชาการในการอธิบายพูดคุยกับพ่อแม่ ผู้ปกครอง
คำถามท้ายบท
1.การจัดการศึกษาปฐมวัยในปัจจุบันการให้ความรู้ผู้ปกครองมีความสำคัญอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ เพื่อให้ผู้ปกครองได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาให้แก่เด็ก และเข้าใจถึงจุดมุ่งหมายที่สำคัญในพัฒนาการเด็ก รวมถึงให้การดำเนินงานทางการศึกษาระหว่างบ้านและโรงเรียนไปในทิศทางเดียวกัน
2.ในสถานศึกษาปฐมวัยสามารถดำเนินกิจกรรมให้ความรู้ผู้ปกครองในลักษณะหรือรูปแบบใดบ้าง จงอธิบายและยกตัวอย่างของกิจกรรม
ตอบ รูปแบบการใช้บ้านเป็นฐาน เช่นการไปเยี่ยมบ้าน , รูปแบบการใช้โรงเรียนเป็นฐาน เช่น การจัดนิทรรศการให้ความรู้ , รูปแบบการใช้ชุมชนเป็นฐาน เช่น การเผยแพร่ความรู้ผ่านเว็บไซด์
3.นักศึกษามีแนวความคิดอย่างไรกับการใช้บ้านเป็นฐานของการให้ความรู้ผู้ปกครอง
ตอบ สามารถเข้าถึงผู้ปกครองได้ง่าย ผู้ปกครองอยากมีส่วนร่วมกับทางโรงเรียน
4.องค์ความรู้ที่จำเป็นในการให้ความรู้ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยเกี่ยวข้องกับเรื่องใดบ้าง
ตอบ วิธีการอบรมเลี้ยงดูเด็ก , พัฒนาการของเด็ก , การยอมรับและเข้าใจในตัวเด็ก
ประเมินตนเอง มาเรียนตรงเวลา ตั้งใจฟังอาจารย์บรรยาย
ประเมินเพื่อน เพื่อนเข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจฟังอาจารย์
ประเมินอาจารย์ อาจารย์อธิบายรายละเอียดครบและเข้าใจเนื้อหาทุกหัวข้อ
บันทึกการเรียน
ครั้งที่4
วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม 2562
ดิฉันขาดเรียนและได้ศึกษาจากเนื้อหาจาก Power point ดังนี้
บทที่ 3 เรื่องการสื่อสารกับผู้ปกครองเด็กปฐมวัย
-ความหมายของการสื่อสาร-
การสื่อสารหมายถึงกระบวนการส่งข่าวสารข้อมูลจากผู้ส่งข่าวสารไปยังผู้รับข่าวสาร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชักจูงให้ผู้รับสารมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา โดยคาดหวังให้เป็นไปตามที่ผู้ส่งสารต้องการ
-ความสำคัญของการสื่อสาร-
1.ทำให้รับรู้และเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม
2.ทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันทั้ง2ฝ่าย
3.ทำให้สร้างมิตรภาพที่อบอุ่น
4.ทำให้เกิดภาพแห่งความพึงพอใจ
5.ช่วยในการพัฒนาอัตมดนทัศน์ เป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีต่อตนเองก่อให้เกิดความพอใจในชีวิต
-รูปแบบของการสื่อสาร-
1.รูปแบบการสื่อสารของอริสโตเติล
ผู้พูด---คำพูด---ผู้ฟัง
2.รูปแบบการสื่อสารของลาล์สเวล
ผู้ส่งสาร---สาร---สื่อ---ผู้รับสาร---ผล
3.รูปแบบการสื่อสารของแชนนอนและวีเวอร์
แหล่งสารสารสนเทศ---ตัวถ่ายทอด---สาร---ผู้รับสารหรือเครื่องรับ---ผู้รับสารปลายทาง
4.รูปแบบการสื่อสารของออสกู๊ดและชแรมม์
สาร---เข้ารหัส---ตีความ---ถอดรหัส---สาร---ถอดรหัส---ตีความ---เข้ารหัส
5.รูปแบบการสื่อสารของเบอร์โล
S(ผู้ส่งสาร)---M(สาร)---C(ช่องทาง)---R(ผู้รับสาร)
-องค์ประกอบของการสื่อสาร-
1.ผู้ส่งข่าวสาร
2.ข้อมูลข่าวสาร
3.สื่อในช่องทางการสื่อสาร
4.ผู้รับข่าวสาร
5.ความเข้าใจและการตอบสนอง
-ผู้ส่งสารและผู้รับสาร-
1.ผู้จัดกับผู้ชม
2.ผู้พูดกับผู้ฟัง
3.ผู้ถามกับผู้ตอบ
4.คนแสดงกับคนดู
5.นักเขียนกับนักอ่าน
6.ผู้อ่านข่าวกับคนฟังข่าว
7.คนเล่านิทานกับคนฟังนิทาน
-สื่อ-
ใช้วิธีพูด-เขียนหรือการนำเสนอในรูปแบบต่างๆ เช่น ใช้รูปภาพหรือเทคโนโลยีต่างๆ
-สาร-
เรื่องราวที่รับรู้ร่วมกันในข้อเท็จจริง ข้อแนะนำ การล้อเลียน ความปรารถนาดี ความห่วงใย มนุษย์จะแสดงออกมาให้เป็นที่รับรู้ได้จะเกิดขึ้นตามกาลเทศะและสภาพแวดล้อมต่างๆในสังคม
-วัตถุประสงค์ของการสื่อสาร-
1.เพื่อแจ้งให้ทราบ
2.เพื่อคว่มบันเทิงใจ
3.เพื่อชักจูงใจ
-ประเภทของการสื่อสาร-
1.จำแนกตามกระบวนการหรือการไหลของข่าวสาร แบ่งเป็น2ประเภท
1.1การสื่อสารทางเดียว เช่น การสื่อสารผ่านสื่อ วิทยุ โทรทัศน์
1.2การสื่อสารสองทาง เช่น การพูดคุย
2.จำแนกตามภาษาสัญลักษณ์ที่แสดงออก แบ่งเป็น2ประเภท
2.1การสื่อสารเชิงวัจนะ เป็นการใช้คำพูด
2.2การสื่อสารเชิงอวัจนะ เป็นการใช้ภาษาท่าทาง
3.จำแนกตามจำนวนผู้สื่อสาร แบ่งเป็น3ประเภท
3.1การสื่อสารส่วนบุคคล
3.2การสื่อสารระหว่างบุคคล
3.3การสื่อสารมวลชน
-ธรรมชาติการเรียนรู้ของผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้-
1.เรียนรู้ได้ดีในเรื่องของพัฒนาการเด็ก
2.เรียนรู้ได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีความสมาฉันท์
3.เรียนรู้ได้ดีจากสื่อและอุปกรณืที่หลากหลาย
-ปัจจัย7ประการเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้ปกครอง-
1.ความพร้อม
2.ความต้องการ
3.อารณ์และการปรับตัว
4.การจูงใจ
5.การเสริมแรง
6.ทัศนคติและความสนใจ
7.ความถนัด
-อุปสรรคที่สำคัญของการสื่อสาร-
1.ผู้ส่งข่าวสารขาดทักษะในการสื่อสารที่ดี เช่น การใช้ภาษาที่ยากแก่การเข้าใจหรือไม่เหมาะกับผู้รับ
2.ข้อมูลข่าวสารมากเกินไป
3.ผู้ส่งหรือผู้รับมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่รับฟังความคิดเห็นผู้อื่น
-7Cกับการสื่อสารที่ดี-
1.Credibility ความน่าเชื่อถือ
2.Content เนื้อหาสาระ
3.Cleary ความชัดเจน
4.Context ความเหมาะสมกับโอกาส
5.Channel ช่องทางการสื่อสาร
6.Continuity consistency ความต่อเนื่องและแน่นอน
7.Clarity of audiencn ความสามารถของผู้รับสาร
-คุณธรรมที่สำคัญในการสื่อสาร-
1.ความสัจจะและไม่ล่วงละเมิดสิทธืซึ่งกันและกัน
2.ความรัก ความเคารพและความปรารถนาดีต่อกัน
3.ความรับผิดชอบในสิ่งที่ตนพูดหรือกระทำ
4.เป็นกิริยาวาจาที่เรียบร้อย๔ุกต้องตามคตินิยม
-วิธีการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ปกครอง-
1.ศึกษาและพยายามทำตนให้เข้าใจกับผู้ปกครอง
2.พยายามเรียนรู้ความต้องการของเขา และหาแนวทางตอบสนองตามความเหมาะสม
3.พูดคุย พบปะกับผู้ปกครองในโอกาสต่างๆ
4.หาโอกาสไปร่วมงานพิธีทางศาสนา เข้าร่วมกิจกรรมกับผู้ปกครอง
5.เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองร่วมกิจกรรม
คำถามท้ายบท
1.จงอธิบายความหมายและความสำคัญของการสื่อสารมาโดยสังเขป
ตอบ การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารให้ผู้ส่งสารและผู้รับสารเกิดความเข้าใจตรงกันทั้ง2ฝ่าย
2.การสื่อสารมีความสำคัญกับผู้ปกครองอย่างไร
ตอบ เพื่อที่จะให้การศึกษากับผู้ปกครองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
3.รูปแบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการให้ความรู้ผู้ปกครองควรเป็นรูปแบบใด จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
ตอบ รูปแบบการสื่อสารของลาล์สเวล คือ ผู้ส่งสารไปหาผู้รับสาร เช่นครูแจ้งข่าวสารของการทำกิจกรรมวันพรุ่งนี้ ให้เด็กเตรียมเสื้อกันฝนหรืออุปกรณ์กันฝนมาคนละ1ชิ้น
4.ธรรมชาติและการเรียนรู้ของผู้ปกครองควรมีลักษณะอย่างไร
ตอบ เรียนรู้ไดเดีในบรรยากาศที่เป็นวิชาการน้อยที่สุด , ได้รับความต่อเนื่องในการเรียนรู้ทีละขั้นตอน , เรียนรู้ได้จากการฝึกปฏิบัติ
5.ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนพฤติกรรมการเรียนรู้สำหรับผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองมีความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกาาของเด็กประกอบปัจจัยด้านใดบ้าง
ตอบ 1.ความพร้อม 2.ความต้องการ 3.อารมณ์และการปรับตัว 4.การจูงใจ 5.การเสริมแรง 6.ทัศนคติและความสนใจ 7.ความถนัด
ประเมินตนเอง มาเรียนตรงเวลา ตั้งใจฟังอาจารย์บรรยาย มีการจดบันทึก
ประเมินเพื่อน มีเพื่อนบางกลุ่มไม่ตั้งใจฟังบ้าง
ประเมินอาจารย์ อาจารย์อธิบายรายละเอียดครบและเข้าใจ
บันทึกการเรียน
ครั้งที่5
วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน 2562
บทที่ 4 เรื่องโครงการการให้ความรู้ผู้ปกครองในและต่างประเทศ
-โครงการการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในประเทศ-
1.โครงการแม่สอนลูก แม่มีความรู้ความเข้าใจและสามารถส่งเสริมพัฒนาการเด็กได้ถูกต้อง
2.โครงการแม่สอนลูก เป้าหมายคือ แม่มีความรู้ความเข้าใจและสามารถจัดกิจกรรมเพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่เด็กก่อนไปโรงเรียน
3.โครงการการพัฒนารูปแบบการให้ความรู้แก่พ่อแม่ผู้ปกครองในการเลี้ยงดูเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปีผ่านชุมชน พ่อแม่ผู้ปกครองเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปีมีความรู้ความเข้าใจในการเลี้ยงดูเด็กอย่างถูกต้อง
4.โครงการการพัฒนารูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองแก่พ่อแม่ผู้ปกครองในการเลี้ยงดูเด็กด้อยโอกาสอายุต่ำกว่า 3 ปีผ่านชุมชน พ่อแม่ผู้ปกครองเด็กด้อยโอกาสอายุต่ำกว่า 3 ปีมีความรู้ความเข้าใจในการเลี้ยงดูเด็กอย่างถูกต้อง
5.โครงการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในเด็กไทย พ่อแม่ผู้ปกครองมีความรู้ความเข้าใจในการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาความคิดความสร้างสรรค์ให้แก่เด็ก
6.โครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมความเข้มของครอบครัว"บ้านล้อมรัก" พ่อแม่ผู้ปกครองมีความรู้ความเข้าใจในบทบาทของตนเองต่อการสร้างความสัมพันธ์ในการดูแลเอาใจใส่บุตรหลาน
7.โครงการหนังสือเล่มแรก(Book start Thailand) พ่อแม่ผู้ปกครองมีความสุขร่วมกันในโลกของหนังสือสร้างพื้นฐานการอ่านและสานสัมพันธ์ในครอบครัว โดยมีหน่วยงานที่ดำเนินการคือ มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก
8.โครงการพัฒนาเด็กโดยครอบครัว พัฒนาและเพิ่มพูนความรู้ให้แก่พ่อแม่เกี่ยวกับการอบรมเลี้ยงดูเด็ก
9.คลินิกให้คำปรึกษาก่อนสมรส สร้างคุณภาพชีวิตและส่งเสริมสุขพลานามัยให้ครอบครัว
-โครงการการให้ความรู้ผู้ปกครองในต่างประเทศ-
1.โครงการศูนย์ส่งเสริมประสบการณ์เด็กปฐมวัย สอนแม่อายุน้อยให้สามารถผลิตของเล่น รู้จักใช้สื่ออุปกรณ์เล่นกับลูดเพื่อพัฒนาเด็ก
2.โครงการHATAF พ่อแม่ผู้ปกครองได้เรียนรู้และเข้าใจถึงพัฒนาการเด็ก การจัดการสิ่งแวดล้อม การเล่นกับเด็ก การพัฒนาทักษะการพูดกับเด็ก
3.โครงการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์สำหรับผู้ปกครองและเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองมีความสามารถในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ให้แก่เด็ก
4.โครงการศูนย์ข้อมูลพ่อแม่ สร้างความสำนึกให้ผู้ปกครองเห็นความสำคัญของตนที่มีต่อเด็ก และสนับสนุนให้ผู้ปกครองมีความสามารถในการดูแลเด็กอย่างถูกต้อง
5.โครงการHead Start สร้างครอบครัวให้เข้มแข็งในการเป็นผู้เลี้ยงดูเด็กชั้นต้น เชื่อมโยงเด็กและครอบครัวต่อการบริการชุมชนที่มีความต้องการจำเป็นและประกันโครงการที่จัดการดีกว่าพ่อแม่เด็กมีส่วนร่วมในการตกลงใจ
6.โครงการHome Start สร้างความสำนึกให้ผู้ปกครองเห็นความสำคัญของตนที่มีต่อเด็กและสนับสนุนให้ผู้ปกครองมีความสามารถในการดูแลเด็กอย่างถูกต้อง
7.โครงการSmart Start พ่อแม่ผู้ปกครองมีความสามารถในการเลี้ยงดูเด็กให้มีความพร้อมก่อนเข้าเรียนในโรงเรียน
8.โครงการBrooklyne Early Education พ่อแม่ผู้ปกครองมีความรู้ความสามารถในการเลี้ยงดูเด็กด้านสุขภาพเบื้องต้นและวิะีการจัดการศึกษาให้แก่เด็กอายุ2ขวบขึ้นไป
9.โครงการเพลย์เซ็นเตอร์ พ่อแม่ผู้ปกครองมีบทบาทในระบบการศึกษาของโรงเรียน
10.โครงการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในลักษณะ"Early Chilhood Center" ให้คำแนะนำพ่อแม่ผู้ปกครองเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพกายใจ
11.โครงการบุ๊คสตาร์ทในประเทศอังกฤษ พ่อแม่ผู้ปกครองใช้หนังสือในการพัฒนาความรู้สึกรักหนังสือและการอ่านให้แก่เด็ก
12.โครงการบุ๊คสตาร์ทในประเทศญี่ปุ่น พ่อแม่ผู้ปกครองใช้หนังสือเป็นสื่อกลางเพื่อสร้างความอบอุ่นอ่อนโยนให้แก่เด็ก
13.โครงการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในการจัดการศึกษาของโรงเรียน ผู้ปกครองเข้าใจระบบการศึกษาของโรงเรียนในทุกด้าน
14.โครงการพ่อแม่คือครูคนแรก ช่วยเหลือแนะนำและให้ความรู้แก่พ่อแม่เกี่ยวกับพัฒนาการเด็ก การอบรมเลี้ยงดู และการส่งเสริมพัฒนาการ
คำถามท้ายบท
1.ในการดำเนินการโครงการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองทั้งในและต่างประเทศมีเป้าหมายร่วมกันอย่างไร
ตอบ เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาปฐมวัยให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
2.นักศึกษามีแนวคิดอย่างไรที่จะสนับสนุนให้ความรู้ผู้ปกครองประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม
ตอบ จัดทำโครงการให้ความรู้ผู้ปกครอง โดยให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมร่วมกับเด็ก
3.ในฐานะที่นักศึกษาจะเป็นผู้ที่ให้ความรุ้แก่พ่อแม่ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยในอนาคต จงยกตัวอย่างขององค์ความรู้หรือเรื่องที่ต้องการจะถ่ายทอดให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองเพื่อใช้ในการเลี้ยงดูเด็กมา5เรื่องพร้อมอธิบายและยกตัวอย่างประกอบ
ตอบ เรื่องอาหารและโภชนาการ เช่น เด็กแต่ละช่วงวัยควรได้รับอาหารให้เหมาะกับวัย , เรื่องพัฒนาการทั้ง4ด้าน เช่น การส่งเสริมทักษะให้เหมาะสมกับพัฒนาการ , สื่อการเรียนรู้ เช่น การประดิษฐ์สื่อ ของเล่น สำหรับเด็กปฐมวัย , นิทานสำหรับเด็กปฐมวัย เช่น การเลือกนิทานเพื่อปลูกผังคุณธรรม , เพลงสำหรับเด็ก เช่น การร้องเพลงสามารถเสริมสร้างพัฒนาการได้อย่างไร
4.การให้ความรู้ผู้ปกครองสามารถส่งผลต่อพฤติกรรมเด็กหรือไม่อย่างไร จงอธิบาย
ตอบ สามารถส่งผลต่อพฤติกรรมของเด็ก เพราะ ช่วยให้ผู้ปกครองเข้าใจความต้องการของเด็กในช่วงวัยนั้น ๆ ไม่คาดหวังมากจนเกินไป มีเจตคติที่ดีกับเด็ก ทำให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้นได้ตามลำดับ
5.นักศึกษาจะมีวิธีในการติดตามผลการให้ความรู้ผู้ปกครองอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ การพูดคุยกับผู้ปกครองอย่างสม่ำเสมอถึงวิธีการดูแลเด็ก และการให้ความสำคัยในพัมนาการของเด็ก
ประเมินตนเอง ตั้งใจฟังอาจารย์บรรยาย
ประเมินเพื่อน เพื่อนเข้าเรียนตรงเวลา มีเพื่อนบางกลุ่มไม่ตั้งใจฟังบ้าง
บันทึกการเรียน
ครั้งที่6
วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2562
บทที่ 5 เรื่องรูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครอง
-รูปแบบหารให้ความรู้ผู้ปกครองระดับชั้นเรียน-
1.ข่าวสารประจำสัปดาห์
2.จดหมายข่าวและกิจกรรม
3.ป้ายนิเทศ
4.การสนทนา
-รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับสถานศึกษา-
1.ห้องสมุดผู้ปกครอง
2.ป้ายนิเทศ
3.นิทรรศการ
4.มุมผู้ปกครอง
5.การประชุม
6.จุลสาร
7.คู่มือผู้ปกครอง
8.ระบบอินเตอร์เน็ต
-สรุป-
สถานศึกษาสามารถจัดให้บริการแก่ผู้ปกครองโดยมีข้อคิดที่สำคัญคือ การคิดหาสื่อและช่องทางที่จะให้ความรู้ต่างๆถึงผู้ปกครองอย่างทั่วถึง รวดเร็ว และมีการตอบกลับ เพื่อให้สถานศึกษาได้รับรู้ว่าผู้ปกครองตระหนักถึงบทบาทของตนเองต่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็กและทำให้การศึกษาเกิดแนวคิดต่อการพัฒนารูปแบบในการให้ความรู้ผู้ปกครองที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
คำถามท้ายบท
1.รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับชั้นเรียน ครูประจำชั้นควรพิจารณาในการเลือกใช้รูปแบบใดบ้าง จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
ตอบ ป้ายนิเทศให้ความรู้ผู้ปกครอง , ข่าวสารประจำสัปดาห์ , จดหมายข่าวปละกิจกรรม
2.รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับสถานศึกษามีรูปแบบใดบ้าง จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
ตอบ การสนทนา เช่น พูดคุยเกี่ยวกับแนวทางพัฒนาเด็ก
ป้ายนิเทศ ให้ความรู้ข่าวสารแก่ผู้ปกครอง
นิทรรศการ เช่น นิทรรศการให้ความรู้
การประชุม แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้ปกครองและสถานศึกษา
ห้องสมุดผู้ปกครอง ผู้ปกครองเข้าใจการดำเนินงานของสถานศึกษา
มุมผู้ปกครอง ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันระหว่างผู้ปกครอง
อินเทอร์เน็ต ให้ความรู้เกี่ยวกับสถานศึกษา
จุลสาร ประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ปกครอง
คู่มือผู้ปกครอง ให้ผุ้ปกครองได้รับข่าวสารเกี่ยวกับสถานศึกษา
3.นักศึกษามีวิธีการหรือแนวทางแก้ปัญหาผู้ปกครองที่ไม่ให้ความร่วมมือในการเข้าร่วมโครงการหรือกิจกรรมอย่างไรบ้าง จงอธิบาย
ตอบ ให้ผู้ปกครองดำเนินกิจกรรมร่วมกับเด็กหรือส่งจดหมายเชิญผู้ปกครองในโครงการที่เกี่ยวกับพัฒนาการของเด็ก
4.การจัดกิจกรรมการให้ความรู้ผู้ปกครองมีความสำคัญและจำเป็นอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ เพื่อให้ผู้ปกครองได้รับรู้ความเป็นไปของสถานศึกษา การจัดเตรียมการเรีนยการสอน
5.รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองที่มีประสิทธิภาพ มีลักษณะของรูปแบบอย่างไร จงอธิบายพร้อมแสดงความคิดเห็น
ตอบ สถานศึกษาให้ความรู้ผู้ปกครองอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และเข้าถึง
ประเมินตนเอง ตั้งใจฟังอาจารย์บรรยาย
ประเมินเพื่อน มีเพื่อนบางกลุ่มไม่ตั้งใจฟังบ้าง
ประเมินอาจารย์ อาจารย์อธิบายรายละเอียดครบ
บันทึกการเรียน
ครั้งที่7
วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม 2562
นำเสนอรายงานการวิจัยที่เกี่ยวกับการให้การศึกษาผู้ปกครองเด็กปฐมวัย
กลุ่มที่1 เรื่อง การส่งเสริมความเข้าใจภาษาของเด็กปฐมวัยโดยผู้ปกครองใช้ชุดกิจกรรม"เล่นกับลูกปลูกภาษา"

กลุ่มที่2 เรื่อง การพัฒนาดปรแกรมที่มีส่วนร่วมของผู้ปกครองเพื่อพัฒนานิสัยรักการอ่านของเด็กปฐมวัย

กลุ่มที่3 เรื่อง การศึกษาผลของการให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองในการสอนความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

กลุ่มที่4 เรื่อง การพัฒนาโปรแกรมกาศึกษาสำหรับผู้ปกครอง ในการส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกายของเด็กวัยอนุบาลด้วยรูปแบบการให้ประชาชนในชนบทมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา
กลุ่มที่5 เรื่อง การเสริมพื้นฐานทักษะทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยผู้ปกครองผ่านชุดกิจกรรม"สนุกกับลูกรัก"

ประเมินตนเอง ตั้งใจฟังเพื่อนนำเสนอ
ประเมินเพื่อน เพื่อนเข้าเรียนตรงเวลา
ประเมินอาจารย์ อาจารย์อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติม
บันทึกการเรียน
ครั้งที่8
วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2562
อาจารย์พูดคุยเกี่ยวกับการทำโครงการ การให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองกับทุกกลุ่ม ในเรื่องของรายละเอียดต่างๆ เช่น แบบบันทึกข้อความการทำกิจกรรม การขอใช้สถานที่ การทำแบบสอบถามตามความต้องการของผู้ปกครอง
อาจารย์แจกวัสดุ-อุปกรณ์ที่จะนำไปใช้เพื่อจัดโครงการให้ความรู้ผู้ปกครอง

ประเมินตนเอง มาเรียนตรงเวลา
ประเมินอาจารย์ อาจารย์อธิบายรายละเอียดครบ
บันทึกการเรียน
ครั้งที่9
วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม 2562
อาจารย์ตรวจรายละเอียด ความเรียบร้อย และความคืบหน้าของแต่ละกลุ่ม และส่งแผ่นพับสายสัมพันธ์ผู้ปกครองที่อาจารย์ได้มอบหมายให้

ประเมินตนเอง มาเรียนตรงเวลา ตั้งใจฟังอาจารย์
ประเมินเพื่อน เพื่อนเข้าเรียนตรงเวลา
ประเมินอาจารย์ อาจารย์อธิบายรายละเอียดครบแ
บันทึกการเรียน
ครั้งที่10
วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม 2562
อาจารย์ตรวจรายละเอียด ความเรียบร้อย และความคืบหน้าของแต่ละกลุ่ม

ประเมินตนเอง ตั้งใจฟังอาจารย์
ประเมินเพื่อน เพื่อนเข้าเรียนตรงเวลา
ประเมินอาจารย์ อาจารย์อธิบายรายละเอียดครบ
บันทึกการเรียน
ครั้งที่11
วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม 2562
อาจารย์ตรวจรายละเอียดโครงการและฝึกซ้อมเสมือนวันจริงตามลำดับโครงการที่ได้วางไว้ ในชื่อเรื่อง
"ศิลปะสร้างสรรค์ แบ่งปันรอยยิ้ม"
ประเมินตนเอง ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่
ประเมินอาจารย์ อาจารย์อธิบายรายละเอียดครบ
บันทึกการเรียน
ครั้งที่12
วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน 2562
อาจารย์ให้แต่ละกลุ่มออกมานำเสนอโครงการที่ได้ให้ความรู้ผู้ปกครอง
กลุ่มที่1 โครงการศิลปะสร้างสรรค์สัมพันธ์ครอบครัว

กลุ่มที่2 โครงการสื่อสร้างสรรค์แบ่งปันรอยยิ้ม

กลุ่มที่3 โครงการสื่อสร้างสรรค์เสริมสร้างจินตนาการ

กลุ่มที่4 โครงการหนังสือเล่านิทาน

กลุ่มที่5 โครงการศลิปะสร้างสรรค์แบ่งปันรอยยิ้ม

วัน/เวลา สถานที่ดำเนินโครงการ
วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2562
ณ อาคารเอนกประสงค์หมู่บ้านโกสุมรวมใจ3
-ภาพบรรยากาศสถานที่-


-การสัมภาษณ์ผู้ปกครอง-



-การจัดทำและผลิตสื่อโครงการ-






-การจัดเตรียมสถานที่-





-การลงทะเบียนผู้ปกครอง-




-ผู้ปกครองเดินชมบอร์ดผลงาน-


-ดำเนินโครงการศิลปะสร้างสรรค์ แบ่งปันรอยยิ้ม-
















-ผู้ปกครองสะท้อนผลงานของตนเอง-



-มอบของที่ระลึกและปิดโครงการ-



ประเมินตนเอง ตั้งใจปฏบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
ประเมินเพื่อน เพื่อนให้ความร่วมมือในการจัดทำโครงการเป็นอย่างดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น